วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประสบการณ์รักษาภูมิแพ้ด้วย "แพทย์แผนจีน"



ผมเป็นภูมิแพ้จมูก (allergic rhinitis) ตั้งแต่เด็ก เคยทดสอบภูมิแพ้แล้วพบว่าแพ้ไรฝุ่น (HDM) ในระดับ 4+ ตั้งแต่เด็ก ผมควบคุมอาการโดยอาศัยยาแก้แพ้และยาสเตียรอยด์พ่นจมูกเป็นหลัก (ที่เคยใช้ได้แก้ Cetirizine หรือ Loratadine + Rhinocort Aqua หรือ Nasacort) จนปัจจุบันผมย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งใน กทม ตามสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย หมอให้ใช้ Fexofenadine 180 mg วันละครั้ง คู่กับยาพ่น Avamys พ่นจมูกข้างละ 2 กด วันละครั้ง มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งอาการก็ทรงๆ ทรุดๆ โดยยังคงมีน้ำมูกอยู่ตลอดเวลา และเยื่อจมูกยังบวมมากอย่างรู้สึกได้ เพราะรู้สึกคัดจมูก หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย แทบจะตลอดเวลา จนหมอแผนปัจจุบันที่รักษากำลังพิจารณาจะให้ฉีดยาภูมิแพ้ (Immunotherapy) ในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว (ซึ่งในผมไปหาหมอครั้งสุดท้ายเมื่อต้นเดือน มิ.ย. และหมอจะนัดดูอาการอีกทีต้นเดือน ก.ย.)



ปกติแล้ว ผมไม่ค่อยสนใจแพทย์ทางเลือกเท่าไหร่นัก เพราะผมคิดว่าแพทย์ทางเลือกเป็นศาสตร์ที่ไม่ได้ผล ไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์รองรับ ต่างจากแพทย์แผนปัจจุบันที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ มีการวิจัย มีข้อมูล อัตราเสี่ยง ที่แน่นอนและพัฒนาก้าวหน้าอยู่เสมอ ถึงแม้ผมจะได้รับคำแนะนำให้ไปฝังเข็มจากคนใกล้ตัวที่ลองไปฝังเข็มแล้วบอกว่าดี แต่ผมก็ยังคิดว่ามันอาจจะเป็น Placebo Effect ก็ได้ เพราะมันอธิบายได้ยากว่าทำไมฝังเข็มถึงทำให้หายได้ (อย่างน้อยก็ก่อนที่ผมจะสนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์แผนจีน) และอีกอย่างหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในการฝังเข็มเองก็ไม่น้อยด้วย นักศึกษามหาลัยเงินน้อยแบบผมไม่ค่อยมีเงิน ฮ่าๆ

เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ผมได้ไปนั่งคุยกับคนรู้จักคนหนึ่ง เขาพูดถึงการรักษาโรคแบบแพทย์แผนจีน และได้พูดถึง รพ.เทียนฟ้า มูลนิธิ ตรงเยาวราช ซึ่งมีหมอจีนรักษาฟรีและมียาสมุนไพรให้ฟรี ด้วยความที่อยากลอง ผมเลยรีบตรงไปที่ รพ.เทียนฟ้า ตรงวงเวียนโอเดียน เยาวราช ในวันต่อมาทันที (สาเหตุที่ไปก็เพราะฟรีนี่แหละครับ ไม่มีอะไรจะเสีย แต่ผมก็บริจาคลงตู้ทุกครั้งนะ)



โรงพยาบาลเทียนฟ้าก็คือที่แห่งนี้แหละครับ อยู่ติดกับโรงพยาบาลกรุงเทพไชน่าทาวน์ ด้านหน้าเป็นศาลเจ้าแม่กวนอิมจากประเทศจีนที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมมากราบไหว้ ภายในมีทั้งส่วนที่เป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนปัจจุบันและส่วนที่เป็นคลินิคแพทย์แผนจีน โดยคลินิคแพทย์แผนจีนจะอยู่ขวามือของศาลเจ้าแม่กวนอิม โดยที่นี่จะเปิดให้บริการ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องตรวจอายุรกรรมและห้องยา ส่วนชั้นบนเป็นคลินิคฝังเข็มและห้องตรวจอายุรกรรมครับ (ราคาค่าฝังเข็มของที่นี่ก็ถูกมาก อยู่ที่ 200 บาท/ครั้ง)

มาครั้งแรกก็ต้องทำบัตรครับ โดยจะต้องหยิบบัตรคิว แนบบัตรประชาชน และเขียนอายุกับเบอร์โทรศัพท์ 2 เบอร์แนบไปด้วย เสร็จแล้วก็รอเรียกชื่อเข้าห้องตรวจครับ จะเจาะจงคุณหมอหรือไม่ก็แจ้งพี่เจ้าหน้าที่ได้เลยนะครับ หมอจีนที่นี่เป็นแพทย์แผนจีนที่มีใบประกอบวิชาชีพและมีคำนำหน้าว่า พจ. ทุกท่านเลยครับ บางท่านเคยเป็นอาจารย์สาขาแพทย์แผนจีนในมหาวิทยาลัยบางแห่งด้วย เพราะฉะนั้นตัดปัญหาเรื่องการกลัวหมอเถื่อนไปได้เลยครับ

พอเข้าห้องตรวจแล้วก็ให้แจ้งอาการกับคุณหมอครับ คุณหมอก็จะตรวจชีพจร (แมะ) ดูลิ้น ซักถามประวัติ ตรวจร่างกายเบื้องต้น และเขียนใบสั่งยาให้ครับ เสร็จแล้วก็นำใบสั่งยาไปรับยาที่ห้องยาฝั่งตรงข้ามได้เลย ยาที่นี่จะต้มให้เรียบร้อยแล้ว และบรรจุในถุงสุญญากาศ เวลาจะรับประทานก็ตัดถุงเทใส่แก้วอุ่นกินได้เลยครับ โดยปกติคุณหมอจะจัดยาให้ 1 สัปดาห์




คุณหมอที่ผมไปรักษาด้วยเป็นประจำคือคุณหมอ พจ.กนิษฐา สารวุฒิ (ลงทุกวัน ยกเว้น จันทร์เช้ากับศุกร์เช้า ฝังเข็ม) ยาที่ผมได้ เป็นยาจีน 2 ตัว ซึ่งคุณหมอสั่งให้จับคู่กิน เช้า-เย็น โดยตัวไหนกินเช้าหรือเย็นก็ได้ ซึ่งผมได้เอาไปให้อากงของผมซึ่งรู้ภาษาจีนอ่านให้ฟังพบว่า ยา 2 ตัวนั้นคือยา Guo Min Jian (過敏煎) และ Yu Ping Feng San (玉屏風散) ซึ่งจากที่หาข้อมูล ทั้ง 2 ตัว มีสรรพคุณในการรักษาโรคภูมิแพ้จมูกครับ



ข้อมูลยา Guo Min Jian และ Yu Ping Feng San คร่าวๆ เหมือนจะมีเปเปอร์ของจีนหลายชิ้นอยู่เหมือนกัน ลองค้นหาดูก็ได้ครับ
http://www.bestacupuncture.com.au/2015/05/chinese-medicine-treatment-of-allergic-diseases-the-application-of-zhus-formula-guo-min-jian/

http://www.crd.york.ac.uk/PROSPERO/display_record.asp?ID=CRD42015024821

http://cnki.gxstd.com/KCMS/detail/detail.aspx?filename=ZSFX201411063&dbcode=CJFD&dbname=CJFD2014

อย่างที่ผมบอกไปว่า ผมเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็ก ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากหรอกครับ และยิ่งกับแพทย์แผนจีนที่หลายๆ ท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องใช้เวลารักษานาน ผมก็ทนกินยาจีนรสชาติห่วยมากไปเรื่อยๆ จนเริ่มเข้าสัปดาห์ที่ 3 ผมสังเกตว่าตัวเองหายใจได้สะดวกขึ้นมาก อาการเหนื่อยง่ายมีน้อยลง น้ำมูกที่เคยมีเยอะมากมีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และอาการค่อยๆก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิด จนถึงปัจจุบัน ซึ่งผมก็ยังกินยาจีนต่อนะครับ อยากรู้ว่ามันจะไปสุดที่ตรงไหนเหมือนกัน เพราะยังใช้เวลาไม่ถึงสองเดือนกับโรคที่เป็นมาเกือบ 10 ปี

กระทู้นี้ผมแค่แบ่งปันประสบการณ์ที่เจอมากับตัวนะครับ ใครจะเชื่อหรือไม่ขอให้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณละกันครับ แต่ถ้าสนใจลองไปติดต่อได้ที่ โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ แผนกแพทย์แผนจีน (เทียนฟ้ามูลนิธิ คลินิคการแพทย์แผนไทย-จีน) ได้เลยครับ ให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ช่วงเช้า 9.00-12.00 และช่วงบ่าย 13.00-16.00 ครับ แต่คิวอาจจะยาวนิดนึงนะครับ เพราะคนค่อนข้างเยอะ และถึงจะรักษาฟรี แต่อยากให้ช่วยบริจาคกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ นะครับ อย่างน้อยก็สำหรับคนที่ไม่มีคนอื่นๆ

แต่เนื่องจากที่นี่ยังไม่มีระบบคอมพิวเตอร์ เวลามาทุกครั้งควรนำบัตรประจำตัวและใบสั่งยามาด้วยทุกครั้งนะครับ


1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลและคำแนะนำ
    ไม่ทราบว่า ณ.ปัจจุบันนี้อาการดีขึ้นมั๊ยครับ

    ตอบลบ